Share
หากพูดถึงโรคยอดฮิตของผู้สูงอายุ ปฏิเสธไม่ได้ว่าโรคข้อเข่าเสื่อมนั้นเป็นอีกโรคยอดฮิตของคนที่มีอายุเลยก็ว่าได้ ซึ่งระดับความรุนแรงก็มีตั้งแต่เริ่มปวดข้อเข่า เข่าโก่ง จนไปถึงการเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ส่งผลต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันอย่างการขึ้นลงบันได หรือแม้แต่การนั่งลงบนเก้าอี้ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันวงการการแพทย์ได้ก้าวหน้าไปไกลอย่างมาก ทำให้การรักษาข้อเข่าเสื่อมให้หายหรือดีขึ้นอย่างชัดเจนเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ว่าแต่การรักษาข้อเข่าเสื่อมจะสามารถทำได้ด้วยวิธีไหนบ้าง? หรือเมื่อไหร่ที่เราจำเป็นที่จะต้อง
ผ่าตัดข้อเข่าเทียม?
วิธีรักษาข้อเข่าเทียมทำได้อย่างไรบ้าง? การรักษาโรคข้อเข่าเทียมสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธีหลักๆ นั่นก็คือการรักษาข้อเข่าเทียมด้วยการผ่าตัดข้อเข่าเทียม และไม่ผ่าตัด
1. การรักษาแบบไม่ผ่าตัดข้อเข่าเทียม
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหนึ่งในสาเหตุที่อาจทำให้ข้อเข่าเสื่อมได้ไวก็คือน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ดังนั้นหนึ่งในวิธีการรักษาสำหรับผู้ที่มีอาการที่ไม่รุนแรงมากก็คือการควบคุมน้ำหนัก และออกกำลังกายแบบที่มีแรงกระแทกต่อข้อเข่าน้อย เช่น ว่ายน้ำ เดิน หรือปั่นจักรยานเป็นต้น
รับประทานยาแก้ปวดและฉีดยาหล่อเลี้ยงข้อเข่าสำหรับผู้ที่เริ่มมีอาการมากขึ้น และอาจกระทบการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำก็อาจต้องรับประทานยาแก้ปวดร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรซื้อยามารับประทานเอง ควรให้แพทย์วินิจฉัยและจ่ายยาให้ก็จะดีที่สุด นอกจากนี้ก็ยังมีวิธีการฉีดยาหล่อเลี้ยง ซึ่งจะฉีดได้ก็ต่อเมื่อกระดูกอ่อนบริเวณข้อเข่ายังไม่ถูกทำลายแบบรุนแรง
ทำกายภาพบำบัดการทำกายภาพบำบัดนั้นจะคล้ายๆ กับการออกกำลังกาย เพราะเป็นการฝึกกล้ามเนื้อ แต่การทำกายภาพบำบัดนั้นจะต้องดูแลโดยนักกายภาพ เพื่อการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
2. การรักษาด้วยการผ่าตัดข้อเข่าเทียมการผ่าตัดข้อเข่าเทียมจะเหมาะกับผู้ที่มีอาการรุนแรง เพราะสามารถช่วยแก้ไขในเรื่องความเจ็บปวดได้ นอกจากนี้การผ่าตัดข้อเข่าเทียมก็ยังเหมาะกับผู้ป่วยที่มีเข่าโก่งงอผิดรูป ซึ่งการผ่าตัดก็จะช่วยให้ข้อเข่ามีความมั่นคงมากขึ้น ทั้งยังสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกมากขึ้น
อย่างไรก็ตามทั้งการรักษาแบบไม่ผ่าตัด และผ่าตัดข้อเข่าเทียม เราขอแนะนำว่าให้ทำการเข้าพบแพทย์เพื่อที่แพทย์จะได้ประเมินการรักษาได้อย่างแม่นยำและถูกต้องที่สุด เพราะหากรักษาผิดวิธีก็อาจทำให้ข้อเข่าของคุณไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร หรือในกรณีที่คุณควรผ่าตัด แต่กลับทานยาแทน ก็ยิ่งอาจทำให้อาการยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ แต่หากอาการยังไม่มากก็ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามที่เราได้แนะนำไปข้างต้นดูก่อน แต่หากทำแล้วยังอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรเข้าพบแพทย์ทันทีเพื่อที่จะได้รักษาได้ทัน เพราะถ้าคุณมีอายุมากขึ้น ก็อาจสายเกินกว่าที่จะการผ่าตัดได้เช่นกัน